2555-05-26

เมื่อไก่ตัวโปรดของคุณอาหารไม่ย่อยจะทำอย่างไรดี

        อาหารที่ไก่ชนกินเข้าไปจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ภาวะการย่อยบกพร่องซึ่งสามารถจำแนกการกินอาหารได้หลายกรณีด้วยกันคือ
1.กินอาหารที่เป็นกรดหรือด่างเกินไป ได้แก่ของบูด ของเน่าเสีย(ข้าวบูด,เศษอาหารค้างคืน)ยากำลัง ยาโด๊ป เป็นต้น
2.การกินอาหารที่ย่อยยากหรือกินจำนวนมากเกินไป เช่น ข้าวเปลือก ข้าวโพด แต่ส่วนมากจะเป็นกรณีที่กินมากเกินไปและกินน้ำน้อยทำให้ขบวนการย่อยอาหารทำงานผิดปกติ ย่อยอาหารไม่หมดและเหลือสิ่งตกค้างเน่าเสียและเกิดกรดเกินที่กระเพาะอาหารในที่สุด
3.กินสิ่งแปลกปลอม ได้แก่ สารเคมี(เมล็ดธัญพืช,พืชผัก,หญ้า)พลาสติก โฟม เหล็ก อลูมิเนียม เป็นต้น กรณีที่กินเมล็ดธัญพืชที่ปนเปื้อนสารเคมีนั้นจะพบว่าจะเป็นสารเคมีจำพวก ยาฆ่าหญ้าซึ่งจะมีความเป็นพิษรองลงมาจากยากำจัดศัตรูพืช อย่างเช่น ฟูราดาน แลนเนต ถ้าเป็นสารเคมีจำพวกนี้ถ้าไก่ได้รับเข้าไปในปริมาณที่น้อยนิดก็สามารถทำให้ไก่ตายได้ ส่วนยาฆ่าหญ้านั้นไก่จะได้รับความเป็นพิษน้อยกว่าในปริมาณที่เท่ากัน ผลกระทบของยาฆ่าหญ้านั้นคือไก่จะปวดท้อง ระบบการย่อยอาหารทำงานผิดปกติ เกิดภาวะอาหารไม่ย่อยในที่สุด ส่วนกรณีของพลาสติก เหล็ก โฟม และอลูมิเนียมนั้น ไก่จะกินสิ่งแปลกปลอมเหล่านี้ เนื่องจากไก่ของท่านขาดแร่ธาตุบางชนิดซึ่งมักจะเกิดในไก่ที่ขังติดสุ่มเป็นเวลานานๆไม่ได้ปล่อย
การป้องกันและการรักษา1.กรณีกินอาหารที่เป็นกรดด่างควรให้ยาลดกรดในกระเพาะอาหารเป็นลำดับแรก เช่น อีโน ยาธาตุน้ำแดง ยาธาตุน้ำขาว แต่ถ้า 3-4 ชั่วโมงผ่านไปแล้วยังไม่ดีขึ้น ควรให้ยาปฏิชีวนะจำพวกนอร์ฟรอกซาซิน 500 มก.ครึ่งเม็ด แต่ถ้าวันรุ่งขึ้นอาหารยังไม่ย่อยอีกควรใช้วิธีการล้างกระเพาะโดยใช้สายยางสอดหรือกรอกน้ำให้เต็มกระเพาะ ห้อยหัวไก่ลง แล้วรีดเอาของเสียและเศษอาหารออกให้หมดแต่ถ้ายังไม่หมดก็ต้องใชวิธีสุดท้ายคือการเจาะกระเพาะเอาอาหารออก และควรใช้ยาปฏิชีวนะทุกครั้งหลังการเจาะกระเพาะเพื่อป้องกันการติดเชื้อ

2.กรณีกินอาหารที่ย่อยยากหรือกินจำนวนมากเกินไป ควรให้ไก่กินยาช่วยย่อยและกินน้ำตามมากๆ งดอาหารทุกอย่างยกเว้นน้ำให้สังเกตเป็นระยะๆทุกๆ 3 ชั่วโมงว่าอาหารยุบลงไปหรือเปล่า ถ้ายุบตอนเย็นควรให้อาหารที่เป็นอาหารอ่อน ผัก ผลไม้ เช่น กล้วย ส้มโอ ส้มเกลี้ยง มะละกอ สับปะรด(ควรให้ในปริมาณที่พอเหมาะ)แต่ในกรณีที่อาหารไม่ยุบลงเลย ภายในระยะเวลา 2 วัน ควรรีบเจาะกระเพาะเอาเศษอาหารออกทันที ก่อนเศษอาหารจะเน่าเสียกว่านี้ซึ่งไก่ก็จะโทรมลงไปตามลำดับด้วย
3.กรณีกินสิ่งแปลกปลอม เช่น เหล็ก โฟม พลาสติก อลูมิเนียมเข้าไปโดยธรรมชาติแล้วไก่จะขับสิ่งแปลกปลอมเหล่านี้ออกมากับอุจจาระมีจำนวนน้อยมากที่สิ่งแปลกปลอมเหล่านี้จะติดค้างอยู่ในกระเพาะอาหารแต่ถ้าเกิดตกค้างไก่จะเกิดภาวะอาหารไม่ย่อยจะมีการรักษาอยู่วิธีเดียวคือ การเจาะกระเพาะเอาสิ่งแปลกปลอมออกเท่านั้น แต่ถ้าเป็นสารพิษก็ต้องล้างกระเพาะเอาสารพิษออกให้หมดเช่นกันโดยวิธีการกรอกน้ำให้เต็มกระเพาะ ห้อยหัวไก่ลง รีดเอาสารพิษและเศษอาหารออกหรือจะเป็นวิธีการเจาะกระเพาะก็ว่ากันไปตามความถนัดและสถานการณ์  

        ภาวะการเจ็บป่วยของร่างกายซึ่งเป็นสาเหตุของอาหารไม่ย่อยได้เช่นกัน เช่น เป็นเนื้องอก เป็นปรวดบริเวณกระเพาะ โรคของระบบลำไส้ โรคหวัด โรคนิวคาสเซิล เป็นต้น การรักษาในกรณีนี้จะต้องรักษากันตามอาการ ถ้าเป็นผลกระทบที่เกิดจากเชื้อโรคแล้วจะต้องรักษาที่สาเหตุก่อน คือการให้ยาปฏิชีวนะเพื่อต้านจุลชีพ เมื่อไก่หายจากโรคนั้นๆแล้วระบบต่างๆที่ทำงานผิดปกติก็จะกลับมาทำงานได้อย่างปกติ ยกเว้นในกรณีเรื้อรังอวัยวะบางส่วนอาจสูญเสียหน้าที่ไป ส่วนกรณีที่เป็นปรวดบริเวณกระเพาะซึ่งเป็นสาเหตุโดยตรงที่ทำให้กระเพาะอาหารทำงานผิดปกติ การรักษาเริ่มแรกควรให้ยาลดปวด เช่น ยาพาราเซตามอลครึ่งเม็ดทุกครั้งที่ไก่มีอาการปวดเพื่อป้องกันการเกิดอาการไข้ ตัวร้อน ซึ่งจะมีผลกระทบต่อการทำงานของกระเพาะอาหารและควรให้ยาปฏิชีวนะจำพวกกลุ่มยาเพนนิซิลินเพื่อลดการเกิดหนองที่ปรวดโดยตรงหรือใช้ยาเพนสเตร็ปแอลเอฉีดเข้ากล้ามเนื้อ 1 cc. 2ครั้ง ทุกๆ 3 วัน และห้ามแกะหรือกวนบาดแผลโดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้ปรวดอักเสบมากยิ่งขึ้น รอจนปรวดสุกรวมกันได้ที่แล้วจึงผ่าเอาปรวดออกระยะเวลาที่รอปรวดสุกนั้น ควรให้อาหารเสริมและยาบำรุงควบคู่กันไปด้วยเพื่อป้องกันการทรุดโทรมของร่างกายในระยะที่กินอาหารได้น้อยลง
        ภาวะความบอบช้ำหลังการชนหรือการปล้ำซ้อม
การรักษามีดังนี้

1.ภายหลังการชนหรือการปล้ำซ้อม ถ้าไก่ของท่านถูกตีลำตัว กระเพาะหรือการปล้ำซ้อมมาหนัก ในตอนเย็นของวันนั้น ควรให้ไก่กินอาหารอ่อนและยาช่วยย่อย วันละ 1 เม็ด
2.ให้ยาปฏิชีวนะจำพวกอ็อกซี่เตรตร้าซัยคลิน เจนตร้ามัยซิน หรือเพนสเตร็ปแอลเอ เด็กซ่าเมทธาโซน เพื่อป้องกันการติดเชื้อหลังชน

3.ควรใช้ความร้อนประคบเพื่อเร่งให้ระบบการหมุนเวียนโลหิตทำงานได้ดีขึ้นและเพื่อลดความบอบช้ำ
4.ควรให้อาหารอ่อน ผัก ผลไม้ เช่น ข้าวต้ม สับปะรด มะละกอ ส้มโอ เพื่อช่วยให้ระบบการย่อยอาหารทำงานได้อย่างปกติ

        การเป็นพยาธิของไก่ซึ่งเกิดจากตัวอ่อนพยาธิตัวกลมบางชนิด ส่วนมากเรามักจะทราบสาเหตุก็ต่อเมื่อไก่ได้ตายไปแล้ว แล้วผ่าซากดู วิธีการสังเกตว่าไก่เป็นพยาธิหรือไม่ คือ
        1.ไก่จะกินอาหารน้อยลง เบื่ออาหารหรือกินน้อย แต่อาหารก็ย่อยไม่หมด
        2.ไม่สดชื่น เซื่องซึม หงอย
        3.ไม่พบอาการเป็นหวัดหรือมีน้ำมูก
        4.ขนลุกขนพองเป็นระยะๆ
        5.ผอมแห้งแรงน้อย

วิธีการรักษา ให้ยาฆ่าพยาธิชนิดตัวกลม เช่น เบนดร้า ไอเวอร์เมคติน

2555-05-07

การแก้อาการหอบหืดในไก่ชนแบบโบราณและปัจจุบัน

         คนเลี้ยงไก่รุ่นใหม่เวลานำไก่ไปตีถ้าไก่มีอาการหอบมากๆ ส่วนใหญ่จะลงความเห็นว่ากราดแดดไก่น้อยไปบ้าง กราดแดดยังไม่ถึงบ้าง ก็แล้วแต่แง่คิดกันไป แต่ก็ยังมีปัจจัยอีกอย่างหนึ่งจากการวิเคราะห์และเฝ้าสังเกตซึ่งทำให้ไก่หอบมากขึ้นได้แก่ อุณหภูมิอากาศสูง อุณหภูมิของร่างกายไก่สูง การเผาผลาญพลังงานมากขึ้น ออกซิเจนในเลือดน้อย ปอดเล็ก โครงสร้างร่างกายบอบบาง(กรรมพันธุ์)ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักพื้นฐานอาการหอบของไก่ก่อนนะครับ
         เมื่อไก่ออกกำลังหรือชนอยู่นั้นอุณหภูมิของร่างกายไก่ก็จะสูงขึ้นเนื่องจากไก่ต้องการพลังงานมาใช้ซึ่งขบวนการเผาผลาญพลังงานก็ยิ่งมากขึ้นและยิ่งใช้แรงใช้กำลังมากขึ้นก็ยิ่งเร่งให้มีการเผาผลาญพลังงานมากขึ้นอีกเมื่อเผาผลาญพลังงานมากก็ต้องใช้ออกซิเจนมากขึ้นซึ่งการเติมออกซิเจนก็มาจากการหายใจเข้าปอดแล้วฟอกเลือดเสียให้เป็นเลือดดีนั่นเองโดยตัวที่นำออกซิเจนไปใช้ในการเผาผลาญพลังงานที่เซลก็คือเม็ดเลือดแดง(ฮีโมโกลบิน)ซึ่งขบวนการนำออกซิเจนมาฟอกก็ขึ้นอยู่กับขนาดของปอด ถ้าปอดใหญ่ก็มีพื้นที่ฟอกเลือดแล้วเติมออกซิเจนได้ดีกว่าปอดเล็ก รวมทั้งเม็ดเลือดแดงถ้ามีในไก่มากก็จะรับออกซิเจนได้มากด้วยซึ่งตัวผลิตเม็ดเลือดก็มาจากไขกระดูกถ้าโครงสร้างกระดูกใหญ่ก็ผลิตได้มาก นอกจากนั้นระบบหลอดลมก็มีส่วนเช่นกันหากหลอดลมเล็ก มีการอุดตัน (คอดอก) การหายใจเอาออกซิเจนลำบาก ไก่ก็จะพยายามอ้าปากหายใจมากขึ้นการหอบก็มากขึ้นจะเห็นว่าอาการหอบนั้นก็มีหลายปัจจัยร่วมกันยิ่งลักษณะการชนของไก่เชิง ไก่ไทยแล้วก็ใช้แรงเยอะอาการหอบก็ยิ่งมากขึ้นเพราะต้องใช้แรงบด แรงบี้ เท่าที่สังเกตหากไก่มีอาการหอบมากๆในยกแรกพอยกต่อไปมักไม่ค่อยตี หรือบางตัวหอบมากๆก่อนหมดยกเป็นอันหนีก่อนซึ่งพบเห็นบ่อยตามสนามโดยเฉพาะไก่ที่ตีในหน้าร้อน ไก่พวกม้าล่อที่พาวิ่งมันก็อาจใช้จุดเด่นที่มันมีปอดใหญ่แล้วพาคู่ต่อสู้วิ่งจนหอบและหมดแรงก่อนแล้วค่อยหันมาตีก็เป็นความฉลาดของไก่สายนี้แต่บางทีก็มีบ้างที่ประเมินคู่ต่อสู้ผิดไปเพราะตัวเองก็หมดแรงก่อนวิ่งไม่ไหวต้องยอมให้คู่ต่อสู้จับเตะได้
         วิธีแก้ไขเรื่องอาการหอบของไก่นั้นไม่สามารถบอกได้หมดต้องสังเกตดูเป็นตัวๆไปว่าสาเหตุที่หอบมาจากสาเหตุอะไรบ้าง เช่น
         สายพันธุ์ ไก่ที่หอบมากๆไม่ควรนำมาทำพ่อแม่พันธุ์ นั่นแสดงให้เห็นว่าไก่ปอดเล็ก โครงสร้างกระดูกบอบบาง เท่าที่สังเกตไก่ไซง่อน ไก่พม่าจะหอบน้อยกว่าไก่ไทยอาจเป็นเพราะไก่เหล่านั้นมาจากแหล่งกำเนิดที่เป็นพื้นที่สูง การพัฒนาเรื่องปอดจะดีกว่าไก่พื้นที่ต่ำเพราะอากาศในพื้นที่สูงจะมีออกซิเจนน้อยเบาบาง การฟิตซ้อมที่ดีทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรง ปอดขยายใหญ่ อาการหอบก็จะน้อยลง
         การกราดแดด เป็นการฝึกให้ไก่ทนอากาศร้อนเพราะอากาศร้อนทำให้การเผาผลาญพลังงานสูงขึ้น อาการหอบก็จะมากขึ้นจึงต้องฝึกไก่ให้สามารถทนร้อนได้แต่ขอบอกว่าการกราดแดดเพื่อลดน้ำหนักไก่นั้นไม่ควรทำแต่ควรเน้นการออกกำลังกายให้มากขึ้น และข้อควรระวังอีกอย่างหนึ่งคือระวังอย่าให้ไก่น็อคแดดเพราะจะทำให้เสียไก่ไปเลย ถ้าเป็นไก่พม่าหรือไก่ไซง่อนรวมทั้งพม่า-ง่อน กราดแดดแค่พอตัวแห้งก็เพียงพอแล้ว
         วิตามิน การเสริมวิตามินบีให้ไก่ชนกินตลอดการเลี้ยงซึ่งมีทั้งที่เป็นน้ำและเป็นเม็ดเพราะวิตามินบีช่วยผลิตเม็ดเลือดและเผาผลาญพลังงาน
         หลอดลม ต้องหมั่นตรวจหลอดลมไก่ชนว่าไม่เป็นโรคคอดอกหรือหลอดลมอักเสบ โรคคอดอกเกิดจากเชื้อโปรโตซัวชื่อ Trichomonas gallinae(ทริโคโมนาส กัลลิแน)ก็รักษาโดยให้ยาเมโทรนิดาโซล ครั้งละครึ่งเม็ดให้กินเช้าเย็นติดต่อกัน 7-10 วัน หาซื้อได้ตามร้านขายยาคนเม็ดละ 1 บาทเท่านั้น ส่วนหลอดลมที่อักเสบ คอดัง คอครอกก็ให้ยาพวกไซโปรฟล็อกซาซินหรือออฟฟล็อกซาซินให้กินติดต่อกันครั้งละครึ่งเม็ดเช้า-เย็น กิน 5 วัน
         ส่วนระหว่างการชนหากมีอาการหอบคนสมัยก่อนมักจะให้ดินเหนียวกินซึ่งมีการทดลองทำแล้วก็ไม่ปรากฏผลว่าเป็นอย่างไร แต่ถ้าจะให้ต้องระวังดินสกปรกไก่ชนอาจติดเชื้อได้เพราะสภาพร่างกายที่อ่อนแอ หลายซุ้มอาจใช้ยาแก้หอบหืดจำพวกยาซาลบูทามอล ยาเทอร์บูทาลีนผสมให้กินก็อาจจะช่วยได้แต่ต้องระวังหากให้เยอะไปไก่อาจน็อคยาได้เพราะยานี้จะไปขยายหลอดลมรวมทั้งกระตุ้นการเต้นของหัวใจมากขึ้นซึ่งถ้าเป็นการแข่งกีฬาสากลเขาห้ามใช้เด็ดขาดแต่สำหรับไก่คงไม่ได้ห้ามเอาไว้

2555-04-28

ไก่ชนกับคนฝรั่งเศส

       ประเทศฝรั่งเศสหนึ่งในชาติมหาอำนาจของโลกมีความก้าวล้ำทางเทคโนโลยีเป็นถึงผู้ผลิตเครื่องบินที่ใช้ในการบินทั่วโลกอีกทั้งยังเป็นผู้นำทางเศรษฐกิจของโลก ชาวฝรั่งเศสมีความภาคภูมิใจที่ใช้ไก่เป็นสัญลักษณ์แทนชาติของตนมานานแล้ว ไม่ใช่แค่ทีมฟุตบอลที่คนไทยมักเรียกทีมตราไก่เท่านั้นแต่ยังรวมถึงสัญลักษณ์อื่นๆของชาติฝรั่งเศสอีกด้วย แม้กระทั่งในปัจจุบันรูปไก่ยังคงเป็นสัญลักษณ์ทหารฝรั่งเศสด้วยเช่นกัน และในยุคสมัยหนึ่งไก่ยังคงถูกนำมาเป็นสัญลักษณ์ของประเทศและปรากฏอยู่บนเหรียญเงินฟรังซ์ของฝรั่งเศสอีกด้วย กีฬาไก่ชนก็เป็นเกมส์กีฬาที่ผูกพันกับชาวฝรั่งเศสมานานแสนนานหลายศตวรรษเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมที่ชาวฝรั่งเศสไม่อาจเลิกได้ ดังนั้นเพื่อเป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรม รัฐบาลฝรั่งเศสจึงประกาศให้กีฬาไก่ชนเป็นเกมส์กีฬาที่ถูกต้องตามกฎหมายของประเทศ ทุกๆวันหยุดสุดสัปดาห์ ชาวอังกฤษ และชาวยุโรปชาติอื่นๆจึงมักมารวมตัวกันที่ฝรั่งเศสเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาไก่ชนที่พวกเขาชื่นชอบกีฬาไก่ชนยุคใหม่ของฝรั่งเศส       กีฬาไก่ชนในฝรั่งเศสยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ทุกสัปดาห์จะมีการจัดการชนไก่ทั่วทั้งประเทศโดยเฉพาะทางภาคเหนือของฝรั่งเศส ชาวอังกฤษก็มักเดินทางมาภาคเหนือของฝรั่งเศสเพื่อร่วมชมและร่วมแข่งขันด้วย ชาวฝรั่งเศสและชาติอื่นๆในยุโรปก็นิยมติดอาวุธให้กับไก่ชนด้วย ชาวฝรั่งเศสมีเลือดนักสู้เช่นเดียวกับไก่ชนจึงนิยมชมชอบกีฬาชนิดนี้มาก การต่อสู้ที่ดุเดือดเรียกเสียงเชียร์ เสียงโห่ร้องได้กระหึ่มสนามเลยทีเดียว ไก่ชนฝรั่งเศสมีรูปร่างสูงใหญ่ กำยำ เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ เช่นเดียวกับผู้เลี้ยงชาวยุโรป และบินได้สูงด้วย เจ้าของไก่ดูแลรักษาไก่ให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ไก่นักสู้จึงพร้อมที่จะลงสนามอยู่เสมอ
ฟื้นฟูสุขภาพหลังการตีด้วยสารสกัดจากสมุนไพร         โอโรฟาร์มาเชื่อว่ามีเพียงหนทางเดียวเท่านั้นที่นำมาซึ่งความแข็งแรงสมบูรณ์ นั่นคือ วิถ๊แห่งธรรมชาติ โอโรฟาร์มาเชื่อมั่นในหลักการนี้มาตลอด ระยะเวลาหลายปีจวบจนปัจจุบันโอโรฟาร์มาค้นหาส่วนผสมชั้นเลิศตามธรรมชาติจากทั่วทุกมุมโลกอย่างต่อเนื่อง เพื่อสรรสร้างผลิตภัณฑ์อันทรงประสิทธิภาพในการฟื้นฟูสุขภาพให้สมบูรณ์แข็งแรงอย่างเป็นธรรมชาติให้แก่ไก่ของคุณ ไอเดียลพิลส์ ยาบินจากโอโรฟาร์มาอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่โอโรฟาร์มาภาคภูมิใจในคุณภาพ โอโรฟาร์มาได้ทุ่มเทเพื่อเสาะแสวงหาสมุนไพร และพืชพรรณธรรมชาตินานาชนิดจากทั่วทุกมุมโลก ผ่านการวิเคราะห์และวิจัย คิดค้นสร้างสรรค์เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดและปลอดภัยที่สุดสำหรับไก่ชนและนกพิราบ โอโรฟาร์มาได้เลือกใช้แต่วัตถุดิบที่ดีที่สุดในโลกเพื่อสร้างสรรค์ไอเดียพิลส์ อาทิเช่น จูนิเพอร์เบอร์รี่ซึ่งเป็นสมุนไพรที่ดีที่สุดชนิดหนึ่งมีประโยชน์สำหรับใช้แก้ปัญหาเรื่องทั้งหมดเกี่ยวกับปัสสาวะ รักษาอาการข้ออักเสบ น้ำตาลในเลือดต่ำ ช่วยบรรเทาหลอดเลือดอักเสบ อาการหอบ ไข้ปอดบวม ช่วยในกระบวนการย่อยอาหารและกระตุ้นการทำงานของกระเพาะอาหาร ช่วยลดแก๊สและอาการท้องอืด เมล็ดเฟนูกรีกช่วยในการเผาผลาญพลังงานได้เป็นอย่างดี ฟอกเลือด บำรุงตับ และช่วยให้ตับทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในการขจัดสารพิษออกจากร่างกายที่เกิดจากความเครียดในช่วงที่ต่อสู้ เมล็ดโคล่านัท สารสกัดจาถั่วโคล่าพืชสมุนไพรพื้นเมืองทางแถบเอเชีย หมู่เกาะทะเลใต้ประเทศออสเตรเลียและแอฟริกามีคุณสมบัติช่วยลดการระคายเคืองและอักเสบได้ ช่วยให้แผลหายเร็วทำให้ไก่ชนฟื้นตัวได้อย่างดี เคปอะโล ว่านหางจระเข้จากแอฟริกาจะช่วยดูดพิษเพื่อลดการอักเสบของบาดแผลได้ดีมาก มีสารอะโลอัลซิน ช่วยยับยั้งการสังเคราะห์ฮิสตามิน ช่วยกระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ ทำให้ระบบขับถ่ายทำงานได้เป็นปกติ บำรุงร่างกาย บรรเทาความอ่อนเพลีย เนื่องจากการแข่งขันที่ยาวนานรวมไปถึงการบำบัดแผลเรื้อรังและแผลในกระเพาะอาหารได้เป็นอย่างดี ไอเดียลพิลส์ช่วยเสริมระบบการย่อย ภูมิคุ้มกัน และระบบการเผาผลาญพลังงานในร่างกายของไก่จึงทำให้ไก่ชนของท่านมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงแต่ยังบินได้สูงสุดและเปี่ยมไปด้วยพลังในการตี นอกจากนี้ไก่ชนยังสามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว สุขภาพแข็งแรงอย่างเห็นได้ชัด กล้ามเนื้อแข็งแรง ช่วยให้บาดแผลมีการสมานตัวได้เร็วขึ้นและฟื้นตัวดีขึ้นอย่างรวดเร็ว

2555-04-26

มือใหม่กับการเลี้ยงไก่เลือดผสม

จากประสบการณ์ในการเลี้ยงไก่ชนมามีมือใหม่ถามเข้ามาอย่างมากมายว่าจะตั้งต้นเลี้ยงไก่เพื่อไปออกชนไม่รู้จะทำอย่างไร ตั้งหลักเริ่มแรกจากตรงไหน เลี้ยงกันกี่วันจึงจะออกชนได้ เขาทำไม่ถูก สำคัญมากๆ เรามาเริ่มต้นตั้งแต่ครั้งแรกกันเลยครับ
ถ้าเรามีไก่อยู่ตัวหนึ่ง ก่อนอื่นเราก็ดูว่าไก่มีเชื้อสายมาจากสายพันธุ์ใด อย่างเช่นมีเลือดพม่าผสมไก่เชิงหรือว่าผสมง่อนมาเท่าใด ก๋อยเท่าใด หรือบางตัวอาจผสมมาตั้ง4 สายพันธุ์แล้ว การเลี้ยงของแต่ละคนย่อมไม่เหมือนกันแต่จะคล้ายๆกัน บางคนก็ไม่แน่ใจว่าจะใช้น้ำอุ่นหรือน้ำเย็นดี จะเลี้ยงกันนานเท่าใด ทำไม่ถูกต้อง หรือจะลงขมิ้นหรือไม่ลงดี มาดูกันว่าจะตัดสินใจอย่างไรดี ก่อนอื่น เราก็ต้องดูว่าเป็นลูกหนุ่มหรือลูกถ่าย ต่อไปก็ดูว่ามีเลือดพม่าหรือไก่เชิงอยู่ด้วย ถ้ามีไก่เชิงผสมอยู่ให้กราดแดด กราดน้ำ ลงขมิ้นด้วย ครั้งแรกอาจลงให้ทั่วตัว ทั่วทุกเส้นขน การลงขมิ้นให้ลงไปที่ในเนื้อของไก่ ให้ขมิ้นถูกหนังและเนื้อไก่อย่าลงแต่ว่าให้ขมิ้นเกาะอยู่บนขนไก่จะทำให้ขนเปราะหักง่ายเพราะขมิ้นเป็นของร้อน ถ้าลงอยู่แต่บนขนไก่ไก่จะใช้ปากมาเขี่ยไซร้ขน ปากถูกขมิ้นมากไปก็จะทำให้ปากเปราะหักง่ายพอออกไปชนในสังเวียนยังไม่ทันไร ปากหัก ปากบิ่น ปากกะเทาะ หรือไม่ปากหลุดไปเลย เมื่อลงขมิ้นต้องระวังให้มากในเรื่องนี้เพราะเป็นขั้นตอนที่สำคัญเกี่ยวพันโยงใยกันเป็นลูกโซ่ ทีนี้เมื่อลงขมิ้นครั้งแรกทั่วทั้งตัวแล้ว วันรุ่งขึ้นก็กราดน้ำ กราดแดดธรรมดาไม่ต้องลงขมิ้นเว้นไปอีกสองวันก็ไปลงขมิ้นอีก การลงครั้งต่อไปก็ลงแค่ส่วนสำคัญ เช่น ใบหน้า ลำคอ หน้าอก ใต้ปีก ปั้นขา เพื่อเวลาไก่ตีกันจะได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลง่ายจึงต้องทำการลงขมิ้นให้บริเวณนั้นมีความเหนียวหนา ประคบกระเบื้องให้มีความกร้าน แต่มีบางคนเลี้ยงไก่ไม่นาบกระเบื้องลงขมิ้นเห็นว่าไก่เป็นไก่พม่าไม่ชอบความตึงของผิวหนังพอไปตีกันเข้าหนังเปราะบาง บาดแผลเกิดขึ้นง่าย ดังนั้นท่านที่ไม่ชอบลงขมิ้นให้ไก่จงใช้วิธีลงบ้าง เว้นบ้าง ดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นเพราะช่วยให้ผิวหนังของไก่แข็งแรงสมบูรณ์
สรุปได้ว่าการเลี้ยงไก่ต้องดูด้วยว่าไก่มีสายเลือดอะไร ถ้ามีเลือดไก่เชิงอยู่มากก็ให้หนักขมิ้นได้ แต่ถ้ามีเลือดพม่าอยู่บ้างก็ลงขมิ้นน้อยหน่อย เรื่องที่จะไม่ลงขมิ้นเลยนั้นเป็นไปไม่ได้หรอกครับ ไก่กับขมิ้นเป็นของที่ขาดจากกันไม่ได้ การเลี้ยงไก่ขอให้มือเลี้ยงมีความสุขุมมากพอ เข้าใจจิตใจของไก่ตัวที่เลี้ยงให้มากพอ ไก่จะเก่งหรือไม่นั้นส่วนลึกแล้วคือความพร้อมทุกด้านของร่างกายไก่ ฝากทิ้งท้ายอีกเรื่องหนึ่งคือเรื่องเล็บก้อยของไก่มีบาดแผลแล้วเล็บหลุด รักษาไม่ค่อยหายนั้นให้ตรวจดูตรงรอยแผลว่ามีเล็บซึ่งฉีกขาดทิ่มแทงอยู่ในเนื้อหรือเปล่า อาจมีเศษเล็บคาอยู่แล้วกลัดหนองต้องแคะเอาออกให้หมด ก่อนทำการปล้ำซ้อมควรพันก้อยเพื่อป้องกันไม่ให้ก้อยหักขณะไก่ตีกัน หากมีแผลที่อุ้งเท้าใต้นิ้วเท้าควรปิดบาดแผลให้เรียบร้อยด้วยการใช้สำลีรองแล้วใช้พลาสเตอร์พันทับเพื่อป้องกันแผลปริขณะชน เมื่อชนเสร็จเปิดแผลออกใส่ด้วยน้ำมันสูตรโบราณ รับรองว่าแผลไม่บวมกลัดหนองอย่างแน่นอน

ไก่พม่า วันนี้ต้อง…อย่างไร ??

โลกเปลี่ยน สังคมเปลี่ยน ไก่ชนเปลี่ยน ทุกอย่างเกิดขึ้นตามยุคตามสมัย วังวนไก่ชนเมืองไทยยิ่งก้าวล้ำหน้า พูดได้ไม่อายปากว่ามันคือ หนึ่งเดียวในโลก มองให้ใกล้ตัวเข้ามากระแสไก่ชนสายเหล่าป๋าก๋อยมาแรงสุดๆเอาอะไรมาฉุดรั้งก็ไม่อยู่แล้วคอพม่าผู้หลงใหลในความอัจฉริยะหูตากองบัญชาการหลักของสัตว์ปีกประเภทนี้เล่า หากไม่พัฒนาไล่หลังเขาบ้างแล้วจะเอาอะไรไปสู้กับเขา มองด้วยจิตสำนึกที่ปกติ หัวใจสายตาที่เป็นกลางเป็นธรรมและเข้าใจในความเปลี่ยน เสาหลักที่สำคัญที่โรมรันพันตูกันตลอดมาและตลอดไปมีอยู่สองก๊กใหญ่เท่านั้นคือพม่ากับป๋าก๋อยจะพันธุ์ไหนก็ตามที่จะพยายามพัฒนาขึ้นมาเพื่อเอาชนะสองเสาหลักใหญ่ต้องมีเลือดป๋าก๋อยและเลือดพม่าติดอยู่ด้วยทั้งนั้น จะดีขึ้นมาบ้างหรือเปล่าก็ไม่ทราบมันเป็นเรื่องของอนาคต มันเป็นแนวคิดแนวทางเฉพาะบุคคลต่างคนต่างมั่นใจในแนวคิดของตนเอง สังเวียนขอบกระทะเท่านั้นจะเป็นตัวคอยพิสูจน์ผลงาน ใครผิดถูกรู้เรื่องกัน ณ ที่ตรงนั้นแหละ เซียนไก่พม่าซึ่งกำลังถูกอิทธิพลป๋าก๋อยบดบังกลืนกินร้อนตัวดิ้นเร่า พม่าเรายังพอมีดีอยู่ใช่ว่าจะด้อยชั้นไปเสียหมด เพียงแต่ต้องทำความเข้าใจสักนิดว่าจะเอาพม่าแบบไหนไปสู้เขาเท่านั้นเอง ในสนามชนสองเสาหลักยังคงผลัดกันแพ้ชนะอยู่ร่ำไป จากประสบการณ์ที่ผ่านมาพม่าตัวที่ชนะป๋าก๋อยได้คือ ต้องตีเชิงแบบนี้ ดังนี้
1.ต้องแข็งแกร่งเป็นพิเศษเพื่อจะทนทานต่อพายุแข้ง ไม่ใช่โดนนิดโดนหน่อยแล้วเตรียมหักเตรียมงอก่องอขิง
2.มีตีนเปล่าและถอยหลังหรือขยายซ้ายขวาอย่างมีstep ตีนเปล่าต้องแม่น คม หวังผลได้ หากร่างกายแข็งแกร่งเป็นพื้นฐานแล้ว ลีลาถอยหรือขยายจะลื่นไหลไปตามสัญชาตญาณเอง
3.ตีหัวต่ำได้ กดหน้าหงอน ถอยหลังดีด หนัก แรง
4.ตีได้ ต้องหนีได้ ไม่เข้าใกล้ ใช้เหลี่ยมหลอกขยับเพื่อชิงจังหวะ ล่อสั้นล่อยาวเมื่อโดนบุกกระหน่ำจนต้านไม่อยู่ คิดไม่ออก
5.อย่าตีป๋าก๋อยตัวสูง ให้ตีตัวต่ำกว่าหรือว่าเท่ากันเอาเป็นว่าให้พม่าได้เปรียบสูงไว้นิดหนึ่งเป้นดีที่สุด มือเปรียบให้ระมัดระวังเรื่องนี้ให้จงหนัก
6.มือน้ำให้เข้าน้ำเปียกตลอดอย่าซักแห้โดยเฉพาะยกหนึ่ง พม่าต้องออกลีลาเยอะประเดี๋ยวเดียวตัวก็จะแห้ง ตัวแห้งเมื่อไหร่ก็หอบเมื่อนั้นแล้วนาทีนั้นแหละเจ้าก็เตรียมตัวตายได้เลย ตัวแห้ง ปอดแห้ง อ้าปากพะงาบหนีไม่ออกแล้วอะไรจะเกิดขึ้น
7.ต้องเป็นพม่าหัวสูงตีส่วนบนเท่านั้น หู ตา วงแดง จึงจะหยุดเขาได้
ถ้าไม่มี…ทำไม่ได้…หาไม่ได้ใน 7 ข้อนี้ก็จงอย่าบังอาจเอาไปตีกับป๋าก๋อยซึ่งเขาพัฒนาล้ำหน้าไปแล้ว ชาวป๋าก๋อยเขากลัว 7 ข้อนี้เหมือนกัน เหล่าแหล่งพม่าที่เก่งๆสามารถต่อกรกับป๋าก๋อยได้สบายๆ ยังมีคุณสมบัติอีกเยอะครับสามารถเสาะหาหรือสอบถามผู้รู้ได้ แล้วท่านจะเข้าใจว่าทำไมต้องมี 7 ข้อไว้ให้เซียนพม่าไว้ทบทวน ปัจจุบันนี้ต้องเป้นพม่าอย่างที่ว่าไว้ตามเกณฑ์ข้างต้นเท่านั้น หากไม่เข้าเกณฑ์ก็อย่าฝืนแข่งไม่เช่นนั้นป๋าก๋อยเอาตายแน่!!

แนะนำซุ้มไก่ชนเพชรประเสริฐ

สวัสดีครับพี่น้องชาวไก่ชนที่รักทุกท่าน...

ซุ้มไก่ชนเพชรประเสริฐ ตั้งอยู่เลขที่ 156/28 ม.6 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี บริหารงานโดยผมเองครับ ชูศักดิ์ เนียมประเสริฐ หรือต๋องครับ ผมเริ่มพัฒนาลูกง่อน,บราซิลสายพันธุ์ดี โครงสร้างแข็งแกร่ง ตีลำโต แทงเจ็บลึกๆ ใช้เดือยจัดและที่สำคัญจิตใจต้องมั่นคงและเหนียวแน่น จากนั้นผมและผู้ร่วมอุดมการณ์ในซุ้มไก่ชนเพชรประเสริฐต่างก็ช่วยกันคัดเลือกและสรรหาไก่พม่าเลือดรังแชมป์เปี้ยน IQ ดีตีแผลคม จิตใจยาว รักเดิมพันและไก่สไตล์ก๋อย,ตราด,ง่อน ล็อค มุด มัด กัดบ่า ตีตัวเลือดรังแชมป์เปี้ยน เบอร์แข้งดี ขยัน ปากไว บู๊ ดุดัน ตีลำโต ใช้เดือยจัด จิตใจมั่นคงเหนียวแน่น รักเดิมพันมาผสมกันซึ่งผลลัพธ์ที่ได้นั้นเป็นไปอย่างที่คิดเอาไว้ ถ้าลูกที่ออกมาเป็นพม่า,ง่อน,บราซิลจะเป็นไก่สไตล์ โยก ถอด ถอย แข้งหน้าดี ตีแผลกระเดือก หู ตา ถ้าเป็นก๋อย,ตราด,ง่อนลูกที่ออกมาจะเป็นสไตล์ล็อค มุด มัด กัดบ่า ตีตัว ช่วงเวลา 10 ปีที่ผ่านมา ผมและทีมงานในซุ้มไก่ชนเพชรประเสริฐได้นำไก่ลูกเพาะออกชนตามสนามไก่ชนมาตรฐานในเขตภาคกลาง ในช่วงนั้นไก่ของผมออกชนแต่ละครั้งสร้างความฮือฮาเป็นอย่างมาก ชนในสังเวียนไหนผู้คนมาดูอย่างล้นหลามเพราะชนสนุกได้เล่นกันทุกคนและส่วนมากก็ได้รับชัยชนะกลับมาเกือบทุกครั้งจนมีคนถามซื้อ แต่ในช่วงนั้นเรายังไม่คิดที่จะขายให้ใครเพราะไก่มีจำนวนไม่มาก ต่อมาเมื่อเพาะได้จำนวนมากที่จะนำเสนอขายได้ ผมและทีมงานซุ้มไก่ชนเพชรประเสริฐจึงลงโฆษณากับนิตยสารไก่ชนซุปเปอร์แชมป์เพื่อทำการตลาดเป็นฉบับแรกและก็ได้ลงโฆษณาเรื่อยมาจนทุกวันนี้ซึ่งหนังสือจะวางแผงทุกวันที่ 1 ของทุกเดือน ผลตอบรับจากลูกค้าดีมากลูกค้าให้ความสนใจมาเยี่ยมชมไก่ที่ซุ้มกันอย่างไม่ขาดสาย ไม่ว่าคุณจะอยู่เหนือ ใต้ กลาง ออก ตก อีสานเมื่อสั่งซื้อไก่จากซุ้มไก่ชนเพชรประเสริฐไปแล้วรับประกันว่าท่านจะไม่ผิดหวังและไม่เสียเงินฟรีอย่างแน่นอน และเพื่อความพึงพอใจของลูกค้าทางซุ้มของเราจะรักษามาตรฐานแบบนี้ตลอดไป
ทุกวันนี้ไก่ลูกผสมยุคพัฒนาของผมได้พัฒนาฝีไม้ลายมือไปอีกขั้นโดยเฉพาะไก่ชุดที่ลงโฆษณานิตยสารไก่ชนซุปเปอร์แชมป์ รับรองว่าท่านจะต้องพึงพอใจอย่างแน่นอนและทางซุ้มไก่ชนเพชรประเสริฐต้องขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่ใช้บริการและให้ความไว้วางใจเรื่อยมา ทางซุ้มพร้อมจะตอบแทนท่านโดยการพัฒนาไก่ลูกผสมยุคพัฒนาสายพันธุ์ใหม่ ทั้งกระดูก โครงสร้าง และแผลตีจากสุดยอดพ่อพันธุ์แชมป์เปี้ยนแห่งยุคให้แข็งแกร่งเพื่อลูกค้าทุกท่านครับ

ขอบคุณครับ

ซุ้มไก่ชนเพชรประเสริฐ

2555-04-19

ยินดีต้อนรับ


สุดยอดพ่อพันธุ์เงินแสนตระกูลชนแพงมีนามว่าเจ้าไข่มุกขาวสายพันธุ์พม่า ง่อน บราซิล ที่ถ่ายทอดพันธุกรรมสู่รุ่นลูกรุ่นหลานที่ได้ชนสนามมาตรฐานเงินหมื่นเงินแสนหลายต่อหลายตัวแล้ว อยู่ในนามสังกัดซุ้มไก่ชนเพชรประเสริฐ สถิติ 3 ไฟท์สนามมาตรฐานชนแสนทุกไฟท์ ตีแผลกระเดือก หู ตา อาชีพ เบอร์แข้งโหดสุดๆ

เจ้าคมเดช พม่า ง่อน บราซิล จอมน็อคเอ้าท์


เจ้าเงินถัง (พม่า ง่อน บราซิล) สถานะพ่อพันธุ์


 
 เจ้าจุกสาเงินแสน  (พม่า ง่อน บราซิล) สถานะพ่อพันธุ์


เจ้าจุกเทพเงินแสน  (พม่า ง่อน บราซิล) สถานะพ่อพันธุ์


เจ้าโควิด-19 ฉายาแข้งมีพิษ  (พม่า ง่อน บราซิล) สถานะพ่อพันธุ์



เจ้าเพชรคีรี ทายาทเจ้าหยกคีรี สถิติชนะ 33ล้าน ที่สนามเทิดไทแบบพลิกล็อค
  (พม่า ง่อน ) สถานะพ่อพันธุ์














เจ้าปิลันย่า สายพันธุ์ก๋อย ง่อน บราซิล ตัวอันตราย




เจ้าเสือดาวสายพันธุ์ก๋อย ง่อน บราซิล เป็นไก่ปากไว เข้าไก่เร็ว ชนสไตล์ บู๊ ดุ ดัน ตีเจ็บสุดๆ